Oo~About us~oO

รูปภาพของฉัน
เราพร้อมที่จะทำงานเพื่อฟื้นฟูอิสลามภายใต้พันธกิจที่ว่า"จงมุ่งมั่นสู่การปฏิรูปตนเอง และเรียกร้องเชิญชวนผู้อื่นสู่การยอมจำนนต่ออัลลอฮฺ"

วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

สตรีผู้เลอค่า ในสายตาบุรษ...

อิสลาม หมายถึง ความสันติอันเกิดจากการนอบน้อมยอมจำนนต่ออัลลอฮฺ (พระผู้เป็นเจ้า) โดยสิ้นเชิง ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม (มุสลิม) จึงหมายถึงผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺและสิ่งที่พระองค์ทรงใช้ให้ศรัทธา พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งที่พระองค์ทรงใช้และหลีกห่างจากสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม

การปฏิบัติตนตามหลักการอิสลามของมุสลิมนั้น เริ่มต้นจากความศรัทธาซึ่งเป็นแก่นสำคัญภายในจิตใจ น้อมนำสู่การเชื่อฟังและปฏิบัติตาม มิใช่หลับหูหลับตาปฏิบัติอย่างงมงาย หากแต่เมื่อปฏิบัติแล้ว มุสลิมผู้นั้นสามารถสัมผัสได้ถึงความสงบสุขและความสมบูรณ์ของแนวทางที่เลือก เขาจึงยึดมั่นปฏิบัติต่อไป ขณะเดียวกัน มันก็เสริมให้ความศรัทธาของเขาเข้มแข็งและพร้อมที่จะดำเนินชีวิตตามระบอบอิสลามได้โดยง่าย

มุสลิมะฮฺ (สตรีผู้ศรัทธา) ก็เช่นกัน เมื่อเธอได้เลือกยึดอิสลามเป็นระบอบการดำเนินชีวิต ย่อมหมายความว่าเธอเลือกที่จะเดินอยู่ในแนวทางนี้ ซึ่งมีกรอบการปฏิบัติวางไว้อย่างจำกัด เธอมิได้มองว่าถูกลิดรอนสิทธิให้ต่ำต้อยกว่าเพศชาย หากแต่ยอมรับในความแตกต่างทางสรีระและอารมณ์ จึงเป็นการเหมาะสมแล้วที่อัลลอฮฺทรงกำหนดบทบาทและสิทธิให้ชายหญิงแตกต่างกัน

มุสลิมะฮฺรู้สึกยินดีอย่างยิ่งหากจะมีชายผู้ปกครองอยู่เคียงข้างเมื่อต้องเดินทาง เพื่อรักษาเกียรติ อำนวยความสะดวก และดูแลความปลอดภัยของเธอ เหล่าสตรีไม่ชอบหรือที่จะมีบอดี้การ์ดซึ่งเป็นคนรู้ใจอยู่คู่กาย? เหตุใดพวกเธอจึงชอบให้ชายแปลกหน้ามาอยู่เคียงเพื่อลดเกียรติและความบริสุทธิ์ที่พึงมี

มุสลิมะฮฺพร้อมที่จะปกปิดเรือนร่างด้วยหิญาบ เพราะเป็นสิ่งที่เธอน้อมรับและเห็นความสำคัญ ไม่ว่าจะสวมผ้าคลุมหน้า (นิกอบ) หรือไม่ ก็ย่อมปลอดภัยและมีเกียรติกว่าเสื้อผ้าน้อยชิ้นที่บ่งชี้ปริมาณความละอาย (สมบัติล้ำค่าของเธอ) ที่เหลืออยู่น้อยนัก

ถึงแม้ว่ามุสลิมะฮฺจะไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้นำสังคมซึ่งประกอบด้วยบุรุษซึ่งมีความสามารถ ความเข้มแข็ง และการตัดสินใจที่เด็ดขาด แต่เธอได้รับอนุญาตเต็มที่ให้เป็นผู้นำกลุ่มมุสลิมะฮฺเพื่อทำงานสร้างสรรค์สังคม และเธอยังมีหน้าที่สำคัญกว่าในการสร้างครอบครัวที่มั่นคงอันเป็นรากฐานของสังคมและประเทศชาติที่เข้มแข็ง ตรงนี้เป็นหน้าที่หลักของเธอ หน้าที่ของความเป็น "แม่" ที่ผู้ชายหน้าไหนก็มาแย่งไปจากเธอไม่ได้ แต่ผู้หญิงจำนวนมากกลับเลือกที่จะผละจากหน้าที่นี้แล้วไปเรียกร้องสิทธิต่างๆ ที่ไม่เหมาะสม ผลักหน้าที่นี้ให้กับพี่เลี้ยงหรือครู ซึ่งไม่รู้ว่าเขาจะรักและให้กับลูกได้เหมือนอย่างหัวอกคนเป็นแม่หรือเปล่า

กรณีข่าวสตรีที่ถูกข่มขืนโดนลงโทษในประเทศซาอุดิอาระเบียนั้น ก่อนที่จะถูกข่มขืน สตรีผู้นั้นกำลังอยู่กับชายที่ไม่ใช่ผู้ปกครอง-มะหฺรอม (มะ-รอม) ของเธอ ดังนั้นจึงมีความผิด การที่สื่อนำเสนอข่าวแง่เดียวในเชิงว่า เธอถูกข่มขืนแล้วยังต้องถูกลงโทษอีกนั้นถูกต้องแล้วหรือ? สังคมต่างร่วมประณามและโจมตีการตัดสินลงโทษดังกล่าว โดยไม่จำเป็นต้องเหลียวมองความผิดของเธอเลยหรือ ? แน่นอนว่าผู้ที่ข่มขืนย่อมมีความผิดและได้รับโทษ แต่แล้วเหตุใดสตรีผู้นั้นจึงได้รับการปกป้อง ทั้งที่เธอก็ทำความผิดด้วย

มุสลิมได้ปฏิบัติตามหลักการอิสลาม มองเห็นความสมบูรณ์และเหมาะสม จึงพร้อมและเต็มใจที่จะดำเนินชีวิตในแนวทางนี้ ไม่ว่าสังคมจะมองหลักการอิสลามอย่างไร ตราบใดที่มนุษย์ไม่ได้ลองนำอิสลามมาใช้ ก็ได้แค่อาศัยการวิเคราะห์จากสติปัญญาของตนซึ่งมีขอบเขตจำกัด เมื่อรวมกับอคติส่วนตัวแล้ว ก็ยิ่งบีบให้มุมมองที่มีอยู่แคบลงไปอีก เหตุใดมนุษย์จึงไม่ลองเปิดใจให้กว้าง มองอะไรอย่างเป็นธรรม เผื่อว่าบางที อัลลอฮฺจะทรงเปิดใจให้ได้รับทางนำที่แท้จริง!

ไม่มีความคิดเห็น: